Black Panther: Wakanda Forever (2022) เป็นภาคต่อของ Black Panther (2018) ที่เล่าเรื่องราวของอาณาจักร วาคานด้า หลังการสูญเสียครั้งใหญ่ เมื่อ กษัตริย์ที’ชัลล่า (Black Panther) จากไปโดยไม่มีทายาทที่พร้อมขึ้นครองบัลลังก์

ประชาชนวาคานด้าต้องเผชิญทั้ง ความโศกเศร้าและความไม่มั่นคง ขณะเดียวกัน โลกภายนอกเริ่มหมายตาแร่ไวเบรเนียมที่เป็นทรัพยากรล้ำค่า และใช้ความอ่อนแอของวาคานด้าเป็นโอกาสในการรุกราน

วิกฤติยิ่งรุนแรงขึ้นเมื่อ เนมอร์ (Namor) ผู้นำเผ่าใต้น้ำ Talokan ปรากฏตัว เขามองว่าวาคานด้าเป็นภัยคุกคาม และพยายามบีบให้เลือกข้างระหว่างการร่วมมือหรือการทำสงคราม

ในจุดนี้ ชูรี (Shuri) น้องสาวของที’ชัลล่า ต้องตัดสินใจครั้งสำคัญว่าเธอพร้อมจะรับบทบาท Black Panther คนใหม่หรือไม่ และจะนำพาวาคานด้าไปในเส้นทางใด — ความแค้นหรือความสงบสุข

รีวิวเชิงเนื้อหา

🎬 Wakanda Forever ไม่ได้เป็นเพียงหนังซูเปอร์ฮีโร่ แต่ยังเป็นหนังที่เต็มไปด้วย อารมณ์ดราม่าและการไว้อาลัย ต่อการจากไปของ Chadwick Boseman ผู้รับบท Black Panther คนแรก ซึ่งถูกสอดแทรกเข้าไปในเนื้อหาของเรื่องได้อย่างกลมกลืน

• จุดเด่น

  • การเล่าเรื่องสะท้อนถึง ความโศกเศร้า การยอมรับ และการก้าวต่อไป ของทั้งตัวละครและผู้ชม

  • การเปิดตัว Namor และอาณาจักร Talokan ที่มีวัฒนธรรมเฉพาะ ทำให้จักรวาลมาร์เวลมีความลึกและน่าติดตาม

  • งานภาพ, เครื่องแต่งกาย, และดนตรี ยังคงอลังการและทรงพลัง

• ข้อสังเกต

  • ความยาวของหนัง (เกือบ 3 ชั่วโมง) อาจทำให้บางช่วงรู้สึกยืดเยื้อ

  • ฉากแอ็กชันมีน้อยกว่าหนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องอื่น ๆ เน้นไปที่ดราม่าและการเมืองเป็นหลัก

Black Panther: Wakanda Forever (2022) เป็นหนังที่เต็มไปด้วยพลังทางอารมณ์ ถ่ายทอดทั้งการสูญเสีย การยืนหยัด และการก้าวสู่บทใหม่ของวาคานด้า ถือเป็นการปิดฉากยุคของที’ชัลล่าและเปิดทางให้ ชูรี กลายเป็น Black Panther คนใหม่ได้อย่างสมศักดิ์ศรี